
รพ.มหาสารคาม ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ติดตามการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ครั้งที่ 17/2565







ลงพื้นที่เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารในแหล่งจำหน่ายไส้กรอกและผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ในตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม
งานคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลมหาสารคาม ร่วมกับ เทศบาลเมืองมหาสารคาม และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองมหาสารคาม ลงพื้นที่เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารในแหล่งจำหน่ายไส้กรอกและผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปอื่น ๆ ในเขตตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสุ่มตรวจร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไส้กรอกและอาหารแปรรูปอื่นๆ ซึ่งเป็นร้านขายปลีกและส่ง จำนวน 9 ร้าน ผลการตรวจเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารไม่พบผลิตภัณฑ์ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ห้ามจำหน่ายทั้ง 32 รายการ
ทั้งนี้โรงพยาบาลมหาสารคามได้ออกรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและประชาชน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ไส้กรอกและอาหารแปรรูปอื่นๆ ที่ห้ามจำหน่ายและให้ความรู้ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ให้สังเกต ต้องมีฉลากภาษาไทยที่ีครบถ้วน ได้แก่ ที่ฉลากจะต้องระบุชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน ส่วนประกอบและข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร น้ำหนักสุทธิ เลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. ก่อนทุกครั้ง
(4-2-2565) ที่ห้องประชุมจรัส สุวรรณเวลา ชั้น 10 อาคารฌลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ ศรีสารคาม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และบุคลากรผู้นำเสนอผลงาน เข้าร่วมประชุมวิชาการงานวันโรคมะเร็ง ประจำปี 2565 และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการภารกิจกำจัดมะเร็งปากมดลูก โดยมีต้อนรับ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาในพิธี ซึ่งบรรยากาศภายในงานมี กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย ปาฐกถาพิเศษ การบรรยายวิชาการ “การยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ นิทรรศการวิชาการ เป็นต้น นอกจากนี้การประชุมวิชาการวันมะเร็งโลก เขตสุขภาพที่ 7 ครั้งนี้ ยังเป็นการจัดการประชุมในช่วงหลังของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป เป็นการยืนยันว่าประเทศไทยจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติจะบรรลุผลสำเร็จได้จริง
(3-2-2565) ที่ห้องประชุมตักสิลา ชั้น 4 อาคารผู้ป่วนอก โรงพยาบาลมหาสารคาม นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมต้อนรับนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และคณะกรรมการนิเทศงานสาธารณสุขระดับอำเภอ รอบที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2565
รพ.มหาสารคาม ระดมบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกิจกรรม KICK OFF ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ขวบ
ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโรงพยาบาลมหาสารคาม หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ โรงพยาบาลมหาสารคาม จัดกิจกรรม KICK OFF ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ปี จังหวัดมหาสารคาม “เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ห่างไกลจากโรคโควิด-19” ขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายที่รับวัคซีนในวันนี้ ประกอบด้วย นักเรียนอายุ 5 – 11 ปี โรงเรียนอนุบาลกิติยา โรงเรียนหลักเมือง และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคามเขต 1 จำนวนกว่า 300 คน และดำเนินการฉีดวัคซีน โดยบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลมหาสารคาม
นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า จังหวัดมหาสารคาม เห็นถึงความสำคัญ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เด็กอายุ 5 – 11 ปี จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นกลุ่ม เสี่ยงอีกกลุ่ม เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ได้รับเชื้อโควิด-19 จากคน ในครอบครัว ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ปกครองให้พาบุตรหลาน มารับการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจเพื่อความปลอดภัย ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ปกครอง พ่อแม่ ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ ที่มีคนจำนวนมาก ไม่เพิ่มโอกาส ในการรับเชื้อ ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองซึ่งต้องอยู่ใกล้ชิดเด็กขอให้เข้ารับวัคซีนครบโดส เพื่อลดโอกาสที่จะจำเชื้อมาสู่เด็กเล็กด้วย
ด้าน นายแพทย์ สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และเร่งรัดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการตอบโต้การระบาดของโรค โดยในระยะแรกได้ให้วัคซีนโควิด-19 ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และมีการขยายกลุ่มเป้าหมายสำหรับเด็กอายุ 5 – 11 ปี โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน มีดังนี้ 1) เด็กที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค 2) เด็ก ที่เป็นนักเรียนในระบบสถานศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 3) เด็กที่เรียนในระบบ Home School 4) เด็กที่ศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษาที่อยู่นอกระบบการศึกษา หรือเด็กที่ตกค้างและยังไม่ได้รับวัคซีน ความสำคัญที่ต้องฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก เนื่องจากกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่มีอาการ แต่หลังจาก 1 เดือน ให้หลัง เด็กอาจมีอาการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ที่เรียกว่า Multisystem Inflammatory Syndrome in Children (MIS-C) ซึ่งอาจรุนแรงได้ โดยวัคซีน ที่ใช้สำหรับเด็ก ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก ฉีดในปริมาตร 0.2 ซีซี เพื่อความปลอดภัย และพบผลข้างเคียง ที่น้อยมาก ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนประเทศต่าง ๆ ที่เริ่มวัคซีนให้เด็กมากขึ้น
(25-1-2565) ที่ห้องประชุมจัมปาศรี ชั้น 4 อาคารผู้ป่วยนอก นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการเพื่อตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Emergency Operation Center) หรือ EOC โรงพยาบาลมหาสารคาม เพื่อติดตามสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ตลอดจนการติดตามความก้าวหน้าบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประชาชนกลุ่มเป้าหมาย
(24-1-2565) ที่ห้องประชุมตักสิลาชั้น 4 อาคารผู้ป่วยนอก นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย คณะกรรมการพัฒนาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลมหาสารคาม โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เภสัชกรหญิงผกากรอง ขวัญข้าวหัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และรองผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นวิทยาบรรยาย ซึ่งมีคณะผู้บริการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานทางด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลมหาสารคาม ในการขับเคลื่อนการดำเนินการทางด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยให้เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการทำให้ประชาชน เชื่อมั่น ชอบ ใช้ สมุนไพรและการแพทย์แผนไทย รวมถึงการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนทางด้านสุขภาพให้กับประชาชนชาวไทย