รพ.มหาสารคาม ต้อนรับคณะศึกษาดูงานด้านการผลิตยาสมุนไพรมาตรฐาน WHO-GMP จากโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม

  แพทย์หญิงจรัญญา  จุฬารี  รองผู้อำนวยการด้านบริการปฐมภูมิ โรงยาบาลมหาสารคาม  ดร.ภก.อดิศักดิ์ ถมอุดทา เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมคณะบุคลากร ร่วมต้อนรับพันเอกหญิงณัฐชานันท์ ประภาสสันติกุล หัวหน้ากองเภสัชกรรม พร้อมบุคลากรและนักศึกษาเภสัชกร โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม เนื่องในโอกาสมาศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านมาตรฐานการผลิตยาสมุนโพร กระบวนการผลิตยาที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน WHO-GMP ณ โรงงานผลิตยาสมุนไพรจัมปาศรี โรงพยาบาลมหาสารคาม เพื่อเป็นแนวทางพัฒนางานด้านเภสัชกรรมของหน่วยงาน 

  แพทย์หญิงจรัญญา  จุฬารี  รองผู้อำนวยการด้านบริการปฐมภูมิ โรงยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า โรงงานผลิตยาสมุนไพรจัมปาศรี โรงพยาบาลมหาสารคาม  ผลิตยาสมุนไพรไทยด้วยมาตรฐานขั้นสูง  ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน WHO-GMP มีการควบคุมคุณภาพ ตามมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO 17025 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี 

  ปัจจุบันผลิตยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในการรองรับระบบบริการโรงพยาบาลมหาสารคาม และเครือข่าย 21 แห่ง ตลอดจนโรงพยาบาลในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 และใกล้เคียง มีศักยภาพผลิตทั้งยาน้ำ ยาใช้ภายนอก ยาแคปซูล/ยาตำรับ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่าง ๆ ทั้งหมดจำนวน 60 ชนิด  มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการคลัง และระบบการซื้อขายที่โปร่งใส ทันสมัย และสนับสนุนการใช้วัตถุดิบซึ่งเป็นพืชสมุนไพรโดยเน้นกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เป็นหลัก พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมโดยบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภายใต้โครงการพัฒนาเมืองสมุนไพรจังหวัดมหาสารคาม (Herbal City of Mahasarakham) 

  ด้านพันเอกหญิงณัฐชานันท์ ประภาสสันติกุล หัวหน้ากองเภสัชกรรม โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นโรงพยาบาลที่มีการผลิตยาสมุนไพรที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานขั้นสูง เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป มีอาคาร อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยมีมาตรฐาน ทั้งยังมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต และควบคุมคุณภาพ เป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่บุคลากรทางการแพทย์ ในสายงานเภสัชกรรมการผลิต สมควรเข้าศึกษาเรียนรู้ เพื่อเพิ่มพูนทักษะแลประสบการณ์ให้หน่วยงาน ตลอดจนถือเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในอนาคตอีกด้วย