รพ.มหาสารคาม ฉีดวัคซีนโควิด-19 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์

ที่ห้องประชุมชั้น 8 อาคารจอดรถ 9 ชั้น โรงพยาบาลมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ โรงพยาบาลมหาสารคาม จัดกิจกรรม “วัคซีน…คืนความเข้มแข็งให้จังหวัดมหาสารคาม” ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า บุคลากรทางการแพทย์จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง จำนวน 745 คน
นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า จ.มหาสารคาม ได้รับจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดซิโนแวค (Sinovac) จากกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,800 โดสแรก เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข และ อสม.
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจะต้องพักเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อป้องกันการเกิดอาการข้างเคียง เช่น มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด มึนงง หายใจติดขัด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และในส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนวันนี้ จะได้รับการนัดมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 และเมื่อฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลเข้าระบบของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ซึ่งข้อมูลนี้จะสามารถนำไปใช้ประกอบการขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ประกอบการตรวจสุขภาพอื่น ๆ ได้
สำหรับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดซิโนแวค (Sinovac) ทั้งหมดนี้ ผ่านการตรวจรับโดยแพทย์ และดูแลระบบโซ่ความเย็นโดยทีมเภสัชกร การจัดเก็บใช้ระบบควบคุมความเย็น ของตู้แช่ยาเย็น ที่มีความปลอดภัยขั้นสูง คงอุณหภูมิที่ 2-8 องศาเซลเซียส มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีอุณหภูมิเกินที่กำหนด ผ่านระบบ SMS alert และ สัญญานเตือน พร้อมระบบไฟสำรองขนาดใหญ่ของ รพ.มหาสารคาม และหลังจากนี้ จ.มหาสารคาม จะได้รับวัคซีนล็อตใหญ่ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อฉีดให้บุคลากรการแพทย์ อสม. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และประชาชนชาวมหาสารคาม ที่ลงทะเบียนขอรับวัคซีน ทั้งในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไปต่อไป
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จ.มหาสารคาม ระลอกเมษายน ประจำวันที่ 22 เมษายน 2564 ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เมื่อเวลา 12.30 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยัน Covid-19 ระลอกเมษายน รวมแล้วจำนวน 109 ราย ในขณะยอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมดสูงขึ้นไปถึง 131 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย