
รพ.มหาสารคาม รับมอบรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ และรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ มูลค่ารวม 12 ล้านบาท










ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการอบรมขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) จังหวัดมหาสารคาม มุ่งขับเคลื่อนบุคลากรสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นญาติเฉพาะกิจ มิตรภาพถาวร ทีมเชื่อมประสานใจ
ที่ห้องประชุมตักสิลา อาคารผู้ป่วยนอก ชั้น 4 โรงพยาบาลมหาสารคาม นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการอบรมขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) จังหวัดมหาสารคาม มุ่งพัฒนาศักยภาพการสื่อสารด้านสุขภาพ ให้บุคลากรสาธารณสุขทำหน้าที่เป็นญาติเฉพาะกิจ มิตรภาพถาวร ทีมเชื่อมประสานใจ พร้อมมอบเป็นของขวัญ ปีใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขจะมอบให้กับประชาชน โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามเป็นผู้กล่าวรายงาน มีนายแพทย์ภาคภูมิ นโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม และผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน บุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจำนวนกว่า 500 คน
นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพการสื่อสารด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 13 Quick Win ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ และจะต้องดำเนินงานให้เห็นผลสัมฤทธิ์ภายใน 100 วัน ซึ่งปัจจุบันนี้การดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่การตรวจรักษา ให้ยา แล้วกลับบ้าน แต่สิ่งที่มีความสลับซับซ้อน มากกว่านั้น คือการดูแลเอาใจใส่ผู้มารับบริการที่กำลังอยู่ในภาวะเจ็บป่วย มีความเปราะบางทางอารมณ์ ที่มีความวิตกกังวล หวาดกลัว ท้อแท้ และสิ้นหวัง หากบุคคลเหล่านั้นได้รับการดูแลเอาใจใส่ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ จนทำให้เกิดความมั่นใจในการได้รับการรักษา ก็จะทำให้เกิดความพึงพอใจในการรับบริการ
การจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าอบรมฯ ทุกคนจะได้พัฒนาศักยภาพทักษะด้านการสื่อสาร เพื่อช่วยสื่อสารและประสานใจให้แก่ ผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรสาธารณสุข ด้วยความใส่ใจ ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ ต่อกัน ซึ่งเชื่อว่าทีม Care D+ จ.มหาสารคาม จะเป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหา ความขัดแย้ง สร้างความอุ่นใจ ความเชื่อมั่น ให้กับญาติ ผู้ป่วย เป็นอีกหนึ่งของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขจะมอบให้กับประชาชน
ด้าน ดร.นพ.พิทักษ์พงศ์ พายุหะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากข้อมูลรายงาน ปัญหาความขัดแย้งข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการขาดการสื่อสาร หรือการสื่อสารที่เข้าใจไม่ตรงกัน รวมทั้งการขาดเทคนิคในการบริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤติ จนทำให้เกิด การร้องเรียน ฟ้องร้อง ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ขวัญและกำลังใจของ บุคลากร
ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นการสื่อสารนี้ และตอบรับนโยบายการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากร จึงได้ดำเนินการโครงการสร้างทีม Care D+ จังหวัดมหาสารคามขึ้น โดยมีบุคคลากรที่สมัครเข้าร่วมโครงการอบรม ขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม Care D+ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย แพทย์ 8 คน, ทันตแพทย์ 6 คน, เภสัชกร 3 คน, พยาบาลวิชาชีพ 89 คน, นักวิชาการสาธารณสุข 38 คน, นักประชาสัมพันธ์ 5 คน และสหวิชาชีพ 17 คน จำนวนทั้งสิ้น 166 คน ครอบคลุมทุกอำเภอ โดยผู้ที่ผ่านการอบรมจะทำหน้าที่เป็นญาติเฉพาะกิจ มิตรภาพถาวร ทีมเชื่อมประสานใจ ในทุกหน่วยบริการสาธารณสุข ของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อช่วยสื่อสารและประสานใจให้แก่ผู้ป่วย ญาติ และบุคลากร สาธารณสุข ด้วยความใส่ใจ ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อกัน
รพ.มหาสารคาม ร่วมต้อนรับ ดร.นพ.พิทักษ์พงศ์ พายุหะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามคนใหม่ ด้วยความยินดียิ่ง
นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร โรงพยาบาลและบุคลากร ร่วมต้อนรับ ดร.นพ.พิทักษ์พงศ์ พายุหะ เนื่องในโอกาสได้ย้ายมาปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดมหาสารคาม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิรินธร จ.ขอนแก่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บุคลากรสาธารณสุขภายในจังหวัด กลุ่มองค์กรต่าง ๆ มาร่วมต้อนรับ และแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ณ ห้องประชุมมารินทร์ จังหวัดมหาสารคาม (2 พย. 2566)
นายแพท์ประเสริฐ ศรีสารคาม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นประธานเปิด “อบรมพัฒนาบุคลากรก่อนประจำการ ปีงบประมาณ 2567 รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 – 6 ตุลาคม 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารจอดรถ โรงพยาบาลมหาสารคาม โดยมีแพทย์หญิงกิติยา ติยาภักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในนามของผู้จัดการโครงการอบรมเป็นผู้กล่าวรายงาน
ทั้งนี้กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรบุคคลในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดงาน มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติงาน แนวทางการประสานงาน การทำงานเป็นทีม และให้บุคลากรใหม่รู้ระเบียบวินัย รวมทั้งสิทธิประโยชน์ สวัสดิการและการพัฒนาบุคลากรในการทำงานภายในโรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการอบรมครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมเป็นบุคลากรใหม่ใน 14 ตำแหน่ง จำนวน 82 คน โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับฟังแนวทางการปฏิบัติงานและอบรมเชิงปฏิบัติการ (03-10-66)